ฟักข้าว
►ฟักข้าว (Spring Bitter Cucumber) เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง อยู่ตระกูลเดียวกับแตงกวาและมะระ เป็นไม้เลื้อยที่มีอายุยืน ผลมีลักษณะทรงกลมรี ทรงไข่ ผิวเปลือกหนามีหนามเล็กๆ ทั่วผล ผลอ่อนสีเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีแดง หรือสีส้มอมแดง ตามสายพันธุ์ ภายในผลข้างใน จะมีเนื้อสีส้ม มีรสชาติจืดชืด มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง จะมีเมล็ดสีน้ำตาลเล็กๆ เรียงอยู่มากมายอยู่ข้างในคล้ายแตงกวา มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่นิยมปลูกกันมาก ในหลายประเทศที่มีอากาศร้อน ฟักข้าวที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีหลายสายพันธุ์ มีคุณประโยชน์และมีสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง นำมาเป็นผลไม้ใช้รับประทาน ใช้ทำเป็นเครื่องดื่มต่างๆได้
พืชผลไม้สมุนไพร
ฟักข้าว : Spring Bitter Cucumber
ฟักข้าว : Baby Jackfruit,Spiny Bitter Gourd,Cochinchin Gourd,Gac fruit
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Momordica cochinchinensis
อยู่ในวงค์ : Cucurbitaceae
ฟักข้าว (Fak-Kaow) เป็นผลไม้ชนิดหนึ่ง อยู่ตระกูลเดียวกับแตงกวาและมะระ เป็นไม้เลื้อยที่มีอายุยืน ใบเดี่ยวสีเขียว ดอกมีสีขาวอมเหลือง ผลมีลักษณะทรงกลมรี ทรงไข่ ผิวเปลือกหนามีหนามเล็กๆทั่วผล ผลอ่อนสีเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีแดง หรือสีส้มอมแดง ตามสายพันธุ์ ภายในผลข้างใน จะมีเนื้อสีส้ม มีรสชาติจืดชืด มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง จะมีเมล็ดสีน้ำตาลเล็กๆ เรียงอยู่มากมายอยู่ข้างในคล้ายแตงกวา มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ฟักข้าวนิยมปลูกมีหลายสายพันธุ์
ลำต้น เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้เถาเลื้อยพัน ที่มีอายุยืน ลำต้นมีลักษณะกลมๆ ผิวเปลือกเรียบ มีสีน้ำตาล ยิ่งอายุมากลำต้นจะมีขนาดใหญ่ตามอายุ บนเถาเลื้อยมีหนามเล็กๆ และมีมือเกาะอยู่เป็นระยะต่อกัน มีสีเขียว
ราก เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะกลม แทงลึกลงดิน มีรากแขนงเป็นรากฝอยเล็กๆ แทงออกตามด้านข้างรอบๆต้น มีสีน้ำตาล
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน ใบมีลักษณะขอบใบมีรอยหยัก มีรอยเว้าลึกสามเว้า มีก้านใบยาว มีสีเขียว
ดอก จะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว มีลักษณะรูปทรงกรวย คล้ายดอกตำลึง กลีบดอกมีสีขาวอมเหลือง ดอกตรงกลางสีน้ำตาลอมม่วง กลีบเลี้ยงจะมีขน มีสีเขียว มีก้านดอกยาว ดอกจะออกที่ข้อต่อใบหรือตามซอกใบ
ผล มีลักษณะทรงกลมรี ทรงไข่ ผิวเปลือกหนามีหนามเล็กๆทั่วผล ผลอ่อนสีเขียวอมเหลือง ผลสุกมีสีแดง หรือสีส้มอมแดง ตามสายพันธุ์ ภายในผลข้างใน จะมีเนื้อสีส้ม มีรสชาติจืดชืด มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดง จะมีเมล็ดสีน้ำตาลเล็กๆ เรียงอยู่มากมาย อยู่ข้างในคล้ายแตงกวา มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว
เมล็ด มีลักษณะทรงกลมแบนเล็กๆ จำนวนมาก มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีแดงหุ้มอยู่ เรียงอยู่มากมาย อยู่ข้างในคล้ายแตงกวา เปลือกเมล็ดมีสีน้ำตาล ข้างในเมล็ดมีสีขาว
ประโยชน์และสรรพคุณฟักข้าว
มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีธาตุแคลเซียม มีฟอสฟอรัส มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี5 มีวิตามินบี6 มีวิตามินบี9 มีโปรตีน มีธาตุเหล็ก มีธาตุแมกนีเซียม มีคาร์โบไฮเดรต มีเส้นใย มีโพแทสเซียม มีพลังงาน มีโซเดียม มีสังกะสี มีไขมัน มีแมงกานีส มีไฟเบอร์ มีไลโคฟีน มีเบต้าแคโรทีน
ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน ช่วยบำรุงปอด แก้ไข้ตัวร้อน ช่วยถอนพิษไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยรักษาเจ็บคอ ช่วยขับปัสสาวะ แก้พิษ แก้ฝี ช่วยรักษาหูด ช่วยรักษาฝีมะม่วง ช่วยขับสารพิษ ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้คัน แก้ปวดหลัง ช่วยลดอาการปวด ช่วยบรรเทาข้ออักเสบช่วยรักษาอาการปวดเข่า ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยบำรุงสายตา ช่วยรักษาต้อกระจก ช่วยรักษาตาเสื่อม ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ขาดเลือด ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงสมอง ช่วยรักษาอัมพาต ช่วยรักษาอัมพฤกษ์ ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยให้ภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้นอนหลับง่าย
การปลูกขยายพันธุ์ฟักข้าว
ฟักข้าวสามารถปลูกได้ในดินทุกชนิด ดินร่วนปนทรายจะเติบโตได้ดี การปลูกฟักข้าวทำได้ โดยใช้การปลูกการเพาะเมล็ด แยกรากปลูก การปักชำ
การปลูกโดยเพาะเมล็ด แล้วนำลงเพาะในถุงพลาสติก หรือแปลงเพาะชำ รดน้ำให้ชุ่ม วางไว้ในที่แดดร่มๆ ใช้เวลาประมาณ 15 วัน จะเริ่มงอก แล้วให้เพาะต่อไปประมาณ 2 เดือน แล้วจึงนำมาปลูกลงในแปลง ให้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 2×3 เมตร แล้วต้องทำค้างให้เกาะเลื้อย เพื่อความแข็งแรง
การดูแลรักษาฟักข้าว
ฟักข้าวอบอากาศร้อน ชอบแสงแดดเพียงพอ ต้องให้น้ำเพียงพอ ระบายน้ำดี ไม่ชอบดินชื้น ดินไม่แฉะ ช่วงปลูกแรกๆให้รดน้ำวันละครั้ง เมื่อฟักข้าวเติบโตขึ้น ก็ให้น้ำได้เรื่อยๆตลอดไป
การเก็บเกี่ยวผลผลิตฟักข้าว
การปลูกจะให้ผลผลิต ใช้เวลาประมาณ 8-10 เดือน จึงจะออกผลผลิต และจะมีลูกออกตามสายพันธุ์ เมื่อผลสุกจะมีเปลือกสีส้ม หรือสีส้มอมแดงทั่วผล ให้เก็บโดยให้ใช้กรรไกรตัดขั้ว แล้วต้องระวังการทำหล่น อาจทำให้ช้ำเสียหายได้
การเก็บรักษาฟักข้าว
เราจะนำฟักข้าวที่สุกเต็มที่ แล้วนำมาวางไว้ในที่อากาศถ่ายเท จะเก็บรักษาไว้ได้นาน โดยไม่ต้องแช่ตู้เย็น
Be the first to comment