มะเขือขื่น

มะเขือขื่น (Yellow Fruit Nightshade) มีหนามแหลมคมปกคลุม ผลทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลดิบสีเขียวมีเส้นลายขาว เนื้อเหนียวฉ่ำน้ำ รสชาติขื่นฝาดเฝื่อน ผลสุกสีเหลือง
มะเขือขื่น (Yellow Fruit Nightshade) มีหนามแหลมคมปกคลุม ผลทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลดิบสีเขียวมีเส้นลายขาว เนื้อเหนียวฉ่ำน้ำ รสชาติขื่นฝาดเฝื่อน ผลสุกสีเหลือง

มะเขือขื่น

►มะเขือขื่น (Yellow Fruit Nightshade) เป็นพืชล้มลุก เป็นพืชผักสมุนไพร เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก มีหนามแหลมคมปกคลุม ผลเดี่ยวมีลักษณะทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผิวเปลือกหนาเหนียว มีเมือกเล็กน้อย ผลดิบมีสีเขียวมีเส้นลายขาว เนื้อเหนียวฉ่ำน้ำ มีรสชาติขื่นฝาดเฝื่อน ผลสุกจะมีสีเหลือง มีเมล็ดแบนกลมเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน จำนวนมากอยู่ข้างใน มีกลิ่นเฉพาะตัว มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนทวีปเอเชีย ได้มีปลูกกันในหลายประเทศทั่วโลก เป็นพืชท้องถิ่นของไทย จะพบเห็นขึ้นตามป่ารกร้าง มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง นำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู

พืชผักสมุนไพร
มะเขือขื่น : Yellow Fruit Nightshade

มะเขือขื่น : Cock roach berry,Surattense Nightshade,Yellow Berried Nightshade
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Solanum aculeatissimum
อยู่ในวงศ์ : Solanaceae

มะเขือขื่น (Ma-Kea-Kean) หรือมีชื่อเรียกว่ามะเขือเหลือง เป็นพืชผักสมุนไพรพื้นบ้าน เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก มีลำต้นเดี่ยวตั้งตรง ลำต้นแข็งและเหนียว มีสีน้ำตาล มีหนามแหลมคมปกคลุม ใบเป็นใบเดี่ยว มีสีเขียว ดอกมีลักษณะรูปกรวย กลีบดอกมีสีม่วง มีเกสรสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียว ก้านช่อดอกจะยาว ดอกออกบริเวณซอกใบ ออกบริเวณข้อของกิ่ง เป็นผลเดี่ยว มีลักษณะทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผิวเปลือกหนาเหนียว มีเมือกเล็กน้อย ผลดิบสีเขียวมีเส้นลายขาว เนื้อเหนียวฉ่ำน้ำ มีรสชาติขื่นฝาดเฝื่อน ผลสุกจะมีสีเหลือง มีรสชาติขื่นเปรี้ยว มีเมล็ดแบนกลมเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน จำนวนมากอยู่ข้างใน ใช้ผลประกอบอาหารเมนูต่างๆ เป็นพืชท้องถิ่นของไทย พบเห็นขึ้นตามป่ารกร้าง

มะเขือขื่น

ลำต้น เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นเดี่ยว เป็นไม้ทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีลักษณะกลม ลำต้นตั้งตรงแข็งและเหนียว แตกกิ่งก้านได้มาก ลำต้นมีหนามแหลมคมปกคลุม มีสีน้ำตาล มีกลิ่นเฉพาะตัว

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับกัน มีลักษณะทรงเรียวรี โคนใบรูปหัวใจ ปลายใบแหลม ขอบใบเป็นรอยเว้า มีก้านใบยาว ใบมีสีเขียว มีหนามแหลมคมปกคลุมทั่วก้านและใบ

ราก เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะกลม แทงลึกลงในดิน มีรากแขนงและรากย่อย รากออกตามรอบๆลำต้น มีสีน้ำตาล

ดอก ออกดอกเดี่ยว หรือออกเป็นช่อ ดอกมีลักษณะรูปกรวย กลีบดอกมีสีม่วง มีเกสรเป็นเส้นสีเหลือง มีกลีบเลี้ยงสีเขียว ก้านช่อดอกจะยาว ดอกออกบริเวณซอกใบ ออกบริเวณข้อของกิ่ง

ผล เป็นผลเดี่ยว มีลักษณะทรงกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผิวเปลือกหนาเหนียว มีเมือกเล็กน้อย ผลดิบมีสีเขียวมีเส้นลายขาว เนื้อเหนียวฉ่ำน้ำ มีรสชาติขื่นฝาดเฝื่อน ผลสุกจะมีสีเหลือง มีรสชาติขื่นฝาดเปรี้ยว มีเมล็ดแบนกลมเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน จำนวนมากอยู่ข้างใน ใช้ประกอบอาหารเมนูต่างๆได้

เมล็ด มีขนาดเล็กๆจำนวนมาก อยู่ภายในผลแก่ เมล็ดมีลักษณะแบนกลมเล็กๆ มีสีน้ำตาลอ่อน

ประโยชน์และสรรพคุณมะเขือขื่น

มีวิตามินซี มีวิตามินเค มีโพแทสเซียม มีวิตามินเอ มีแคลเซียม มีฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีคาร์โบไฮเดรต มีพลังงาน มีเส้นใย มีโปรตีน มีโซเดียม

ช่วยขับเสมหะ ช่วยกัดเสมหะ แก้ไข้ ช่วยลดไข้ แก้ไอ แก้ไข้สันนิบาต ช่วยรักษาอาการปวดศรีษะ แก้ปวดกระเพาะอาหาร แก้อาการปวดฟัน แก้พิษต่างๆ ช่วยรักษาฝี ช่วยรักษาหนอง ช่วยขับลม ช่วยรักษาปวดบวม ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงกำลัง แก้น้ำลายเหนียว ช่วยขับพยาธิ

การปลูกและขยายพันธุ์มะเขือขื่น

มะเขือขื่นเป็นพืชที่เจริญได้ ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทรายจะเจริญได้ดี ทนความแห้งแล้งได้ดี มีวิธีการปลูกคือ โดยใช้เมล็ดพันธุ์ นำมาเพาะในถุงเพาะชำ หรือแปลงดินเพาะชำ เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 30 วัน แล้วจึงทำการย้ายต้นกล้า นำมาปลูกลงในแปลงดิน ให้มีระยะปลูกระหว่างต้น ประมาณ 1×1 เมตร

วิธีดูแลรักษามะเขือขื่น

มะเขือขื่นเป็นพืชที่ชอบระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน โดยรดน้ำเช้าเย็น ระยะแรกต้องให้น้ำทุกวัน ขณะที่ช่วงติดดอกติดผล ต้องให้น้ำทุกวัน ให้น้ำตลอดไป ต้องทำการตัดแต่งกิ่ง เพื่อให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น

การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะเขือขื่น

การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะเขือขื่น มีอายุประมาณ 60 วัน หลังการปลูก จะเริ่มเก็บผลผลิตเมื่อ มีระยะผลดิบสีเขียว และระยะผลแก่มีสีเหลือง ตามต้องการ ให้นำกรรไกรมาตัดขั้ว แล้วใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ มีระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต ต่อไปได้เรื่อยๆ

วิธีเก็บรักษามะเขือขื่น

จะนำผลมะเขือขื่น แล้วนำมาล้างน้ำให้สะอาด เราจะมีวิธีเก็บรักษาให้สดนานๆ คือให้ล้างน้ำให้สะอาดดี แล้วให้สะเด็ดน้ำออกให้หมด แล้วนำมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง แล้วใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ตู้เย็น จะเก็บไว้ได้นาน

Be the first to comment

Leave a Reply