ตาลปัตรฤาษี

ตาลปัตรฤาษี

►ตาลปัตรฤาษี (Yellow Velvetleaf) เป็นพืชน้ำสมุนไพร เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีเหง้าหัวแตกหน่อได้อยู่ในดินใต้น้ำ ใบโผล่พ้นน้ำได้ ลำต้นมีลักษณะสั้นกลมๆ มีกาบใบล้อมรอบลำต้น มีสีน้ำตาล โคนก้านใบมีสีน้ำตาลอมม่วง ปลายก้านใบมีสีเขียว เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ แทงออกมาจากเหง้า ก้านใบยาวเป็นเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ ใบมีลักษณะรูปทรงกลม มีขนาดใหญ่ ดอกออกเป็นช่อแบบร่ม ก้านดอกมีสีเขียวอ่อน ก้านดอกยาวเป็นสามเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ มีดอกย่อยอยู่บนยอด ประมาณ 7-10 ดอก กลีบดอกย่อยมีสามกลีบมีสีหลือง มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ อเมริกากลาง เอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในประเทศไทยพบทั่วไปในหนองบึง แม่น้ำตื้น ในดินชื้นมีน้ำขัง มีประโยชน์สรรพคุณทางยา นำมารักษาโรคต่างๆ ได้หลายอย่าง ใช้รับประทานลำต้น ใบ ดอก สามารถนำมาประกอบอาหาร เมนูต่างๆ ได้มากมายหลากหลายเมนู

พืชผักสมุนไพร
ตาลปัตรฤาษี : Yellow Velvetleaf

ตาลปัตรฤาษี : Sawah Lettuce,Yellow Sawah Lettuce,Sawah Flower Rush
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Limnocharis flava (L.) Buchenau
อยู่ในวงค์ : Alismataceae

ตาลปัตรฤาษี (tan-pat-er-si) หรือมีชื่อตามท้องถิ่นเรียกว่า ผักก้านจอง ผักพาย บอนจีน เป็นพืชน้ำสมุนไพร เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีเหง้าหัวแตกหน่อได้อยู่ในดินใต้น้ำ ใบโผล่พ้นน้ำได้ ลำต้นมีลักษณะสั้นกลมๆ มีกาบใบล้อมรอบลำต้น มีสีน้ำตาล โคนก้านใบมีสีน้ำตาลอมม่วง ปลายก้านใบมีสีเขียว เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ แทงออกมาจากเหง้า ก้านใบยาวเป็นเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ ใบมีลักษณะรูปทรงกลม มีขนาดใหญ่ ดอกออกเป็นช่อแบบร่ม ก้านดอกมีสีเขียวอ่อน ก้านดอกยาวเป็นสามเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ มีดอกย่อยอยู่บนยอด ประมาณ 7-10 ดอก กลีบดอกย่อยมีสามกลีบมีสีหลือง มีรังไข่มีเกสรทรงกลม มีกลิ่นหอมเฉพาะ ใช้รับประทาน มีรสชาติหวานกรอบ ตาลปัตรฤาษีจะให้ผลผลิต ในฤดูปลายฝนต้นหนาว

ลำต้น เป็นพืชน้ำสมุนไพร เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มีเหง้าหัวแตกหน่อได้อยู่ในดินใต้น้ำ ใบโผล่พ้นน้ำได้ ลำต้นมีลักษณะสั้นกลมๆ มีกาบใบล้อมรอบลำต้น มีสีน้ำตาล โคนก้านใบมีสีน้ำตาลอมม่วง ปลายก้านใบมีสีเขียว

ราก มีระบบรากแขนง มีลักษณะกลมๆ ฝอยๆ ออกรอบๆเหง้า มีสีน้ำตาล

เหง้า มีเหง้าหัวแตกหน่อได้อยู่ในดินใต้น้ำ มีลักษณะเป็นข้อๆมีไหลสั้นๆ แตกหน่อออกมารอบๆ มีสีน้ำตาล

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ แทงออกมาจากเหง้า ก้านใบยาวเป็นเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ ใบมีลักษณะรูปทรงกลม มีขนาดใหญ่ โคนก้านใบมีสีน้ำตาลอมม่วง ปลายก้านใบมีสีเขียว มียางสีขาว

ดอก ออกเป็นช่อแบบร่ม ก้านดอกมีสีเขียวอ่อน ก้านดอกยาวเป็นสามเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ มีดอกย่อยอยู่บนยอด ประมาณ 7-10 ดอก กลีบดอกย่อยมีสามกลีบมีสีหลือง มีรังไข่มีเกสรทรงกลม มีกลิ่นหอมเฉพาะ ใช้รับประทาน มีรสชาติหวานกรอบ จะออกดอกในฤดูฝน

ผล มีลักษณะรูปครึ่งวงกลมเล็กๆ ผลอ่อนมีสีเขียว ผลแก่มีสีดำ ผลแห้งแตกออกได้ มีเมล็ดเล็กๆ อยู่ข้างใน

เมล็ด อยู่ข้างในผล มีลักษณะรูปทรงเกือกม้า เมล็ดมีขนาดเล็กๆ มีสีน้ำตาล

ประโยชน์สรรพคุณตาลปัตรฤาษี

มีคาร์โบไฮเดรต มีโพแทสเซียม มีฟอสฟอรัส มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี5 มีวิตามินบี6 มีแคลเซียม มีเบตาแคโรทีน มีเหล็ก มีแมงกานีส มีโซเดียม มีไขมัน มีน้ำตาล มีโปรตีน มีสังกะสี มีพลังงาน มีแมกนีเซียม มีเส้นใย

ช่วยเจริญอาหาร แก้ไข้ แก้ท้องผูกท้องเฟ้อ แก้จุกเสียด แก้ปวดท้อง ช่วยย่อยอาหาร ช่วยขับลม ช่วยลดคอเลสเตอรอล เป็นยาระบาย ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ช่วยบำรุงร่างกาย แก้ปวดเมื่อย แก้ตะคริว แก้เหน็บชา ใช้ฆ่าพยาธิ แก้โรคผิวหนัง แก้ท้องเสีย ช่วยรักษาแผลในกระเพาะ แก้ปวดหัว แก้วิงเวียน

การปลูกและขยายพันธุ์ตาลปัตรฤาษี

ตาลปัตรฤาษีเป็นพืชน้ำสมุนไพร เป็นพืชน้ำชอบน้ำขัง หนองบึง แม่น้ำตื้น ในดินชื้นมีน้ำขัง จะทำให้เจริญได้ดี การปลูกทำได้ง่ายๆ ด้วยเมล็ดหรือแยกเหง้า ให้มีระยะห่างกันพอประมาณ

วิธีดูแลรักษาตาลปัตรฤาษี

ตาลปัตรฤาษีเป็นพืชน้ำ ชอบน้ำขัง หนองบึง แม่น้ำตื้น เป็นพืชที่ชอบแดด เจริญได้ดีในดินชื้นมีน้ำขัง ให้โดนแดดได้ตลอดวัน จะทำให้โตได้เร็ว

การเก็บเกี่ยวผลผลิตตาลปัตรฤาษี

ตาลปัตรฤาษีจะให้ผลผลิต ในฤดูปลายฝนต้นหนาว ประมาณเดือน กย.ตค.พย. ลำต้นจะแห้งตายในฤดูหนาว และเมล็ดร่วงอยู่บนดิน จะเก็บเกี่ยวลำต้น ดอกออกมา ให้ตัดที่โคนก้านออกมา เมื่อมีกอเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว ต้องนำออกมาหรือแยกออกไปปลูกใหม่บ้าง จะช่วยให้ขยายกอใหญ่เพิ่มขึ้นด้วย เพื่อให้ต้นอ่อนโตขึ้นมาใหม่ เป็นการแตกหน่อ จะทำให้การขยายพันธ์ได้ผลผลิตมากขึ้น

วิธีเก็บรักษาตาลปัตรฤาษี

จะนำตาลปัตรฤาษี มาล้างน้ำทำความสะอาด แล้วสะเด็ดน้ำออกให้แห้ง แล้วแพ็คเก็บไว้ใช้ได้นานๆ แล้วนำใส่ถุงพลาสติคแช่ตู้เย็น จะเก็บรักษาไว้ใช้ได้นาน

►ตาลปัตรฤาษี (Yellow Velvetleaf) เป็นพืชน้ำสมุนไพร มีเหง้าหัวแตกหน่อได้อยู่ในดินใต้น้ำ ใบโผล่พ้นน้ำได้ โคนก้านใบมีสีน้ำตาลอมม่วง ปลายก้านใบมีสีเขียว ก้านใบยาวเป็นเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ ใบรูปทรงกลม มีขนาดใหญ่ ดอกออกเป็นช่อแบบร่ม ก้านดอกยาวเป็นสามเหลี่ยม มีเยื่อโพรงอากาศพองลมอวบน้ำ ดอกมีสีหลือง