กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียว (Okra) ผลเป็นฝักทรงยาวเรียวรี มีสันห้าเหลี่ยมตามยาว มีขนเล็กๆทั่วผล ฝักอ่อนมีสีเขียว มีเมล็ดเล็กกลมสีขาวอยู่ข้างใน มีน้ำเมือกลื่นหุ้มเมล็ดอยู่
กระเจี๊ยบเขียว (Okra) ผลเป็นฝักทรงยาวเรียวรี มีสันห้าเหลี่ยมตามยาว มีขนเล็กๆทั่วผล ฝักอ่อนมีสีเขียว มีเมล็ดเล็กกลมสีขาวอยู่ข้างใน มีน้ำเมือกลื่นหุ้มเมล็ดอยู่

กระเจี๊ยบเขียว

►กระเจี๊ยบเขียว (Okra) เป็นพืชผักสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีอายุสั้นเพียงฤดูเดียว เจริญเติบโตได้ง่ายๆ ลำต้นเป็นกลมเล็กๆ แตกกิ่งสาขามาก มีสีเขียว มีขนหยาบๆปกคลุม ใบเดี่ยวมีลักษณะทรงรี มีสีเขียวมีรอยเว้าลึก ออกดอกเดี่ยว มีลักษณะทรงกรวย กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อน ผลเป็นฝัก มีลักษณะทรงยาวเรียวรี มีสันห้าเหลี่ยมตามยาว มีขนเล็กๆทั่วฝัก ฝักอ่อนมีสีเขียว มีเมล็ดเล็กกลมสีขาวอยู่ข้างใน มีน้ำเมือกลื่นหุ้มเมล็ดอยู่ มีรสชาติหวานกรอบ ฝักแก่มีสีน้ำตาล มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกาตะวันตก ประเทศซูดาน มีปลูกกันในหลายประเทศเขตร้อน มีการปลูกทั่วไปในประเทศไทย มีการปลูกหลายสายพันธุ์ มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง สามารถนำมาประกอบอาหารต่างๆ หลายเมนู

กระเจี๊ยบเขียว

พืชผักสมุนไพร
กระเจี๊ยบเขียว : Okra

กระเจี๊ยบเขียว : Lady’s Finger
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Abelmoschus esculentus
อยู่ในวงศ์ : Malvaceae

กระเจี๊ยบเขียว (Ka-Jeab-Keaw) เป็นพืชผักสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีอายุสั้นเพียงฤดูเดียว เจริญเติบโตได้ง่ายๆ ลำต้นเป็นกลมเล็กๆ แตกกิ่งสาขามาก มีสีเขียว มีขนหยาบๆปกคลุม ใบเดี่ยวมีลักษณะทรงรี มีสีเขียวมีรอยเว้าลึก ออกดอกเดี่ยว มีลักษณะทรงกรวย กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อน ผลเป็นฝัก มีลักษณะทรงยาวเรียวรี มีสันห้าเหลี่ยมตามยาว มีขนเล็กๆทั่วฝัก ฝักอ่อนมีสีเขียว มีเมล็ดเล็กกลมสีขาวอยู่ข้างใน มีน้ำเมือกลื่นหุ้มเมล็ดอยู่ มีรสชาติหวานกรอบ ฝักแก่มีสีน้ำตาล สามารถนำมาประกอบอาหารต่างๆ หลายเมนู ในประเทศไทยมีการปลูกหลายสายพันธุ์

ลำต้น เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก เป็นพืชล้มลุกอายุปีเดียว ลำต้นมีลักษณะกลมเล็กๆ มีขนหยาบๆปกคลุม เปลือกต้นบาง ต้นมีสีเขียว

ต้นกระเจี๊ยบเขียว

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามสลับกันตามกิ่ง ใบมีลักษณะรูปฝ่ามือ ใบเว้าลึกสามแฉก ขอบใบหยัก ก้านใบยาว มีสีเขียว มีขนเล็กๆปกคลุม

ราก เป็นระบบรากแก้ว มีลักษณะกลมเล็กๆ แทงลึกลงในดิน มีรากแขนง และรากฝอยออกรอบๆ มีสีน้ำตาล

ดอก เป็นดอกเดี่ยว มีลักษณะทรงกรวย กลีบดอกมีสีเหลืองอ่อน โคนกลีบมีสีม่วงอมแดง มีเกสรเป็นหลอดยาวรี มีกลีบเลี้ยงสีเขียว ก้านช่อดอกสั้น ดอกออกตามซอกใบและปลายยอด

ผล เป็นฝัก มีลักษณะทรงเรียวยาวรี มีสันห้าเหลี่ยมตามยาว ปลายฝักแหลมเป็นจีบ มีขนเล็กๆทั่วฝัก ฝักอ่อนมีสีเขียว มีเมล็ดเล็กกลมสีขาวอยู่ข้างใน มีน้ำเมือกลื่นหุ้มเมล็ดอยู่ มีรสชาติหวานกรอบ ฝักแก่มีสีน้ำตาล จะแห้งแตกมีเมล็ดกลมเล็กๆข้างใน

เมล็ด อยู่ในฝัก ฝักแก่มีสีน้ำตาล จะแห้งแตก มีเมล็ดข้างใน มีลักษณะกลมๆ มีขนาดเล็กๆ มีสีเทา

ฝักแก่กระเจี๊ยบเขียว

ประโยชน์และสรรพคุณกระเจี๊ยบเขียว

มีโปรตีน มีคาร์โบไฮเดรต มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีแคลเซียม มีฟอสฟอรัส มีโพแทสเซียม มีเหล็ก มีไขมัน มีพลังงาน มีเส้นใย มีสังกะสี

ช่วยบำรุงสมอง ช่วยบำรุงตับ ช่วยขับเหงื่อ ช่วยขับสารพิษ ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยลดคอเรสเตอรอลในเลือด ช่วยรักษาความดันเลือด ช่วยรักษาหลอดเลือดตีบตัน แก้หวัด เป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยระบบทางเดินอาหาร ช่วยระบบขับถ่าย ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหารในลำไส้ แก้กรดไหลย้อน ขับพยาธิ ช่วยระบบทางเดินปัสสาวะ ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาแผลอักเสบ ช่วยรักษาแผลติดเชื้อ ช่วยรักษาฝี ช่วยรักษาแผลพุพอง ช่วยรักษาโรคผิวหนัง แก้คัน อนุมูลอิสระ ช่วยชลอชรา ช่วยบำรุงผิวพรรณ

การปลูกและขยายพันธุ์กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชที่เจริญได้ ในดินแทบทุกชนิด ดินร่วนปนทรายจะเจริญเติบโตได้ดี ควรปลูกในฤดูฝนจะดี การปลูกจะนิยมปลูกโดยใช้ วิธีการขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด โดยนำเมล็ดพันธุ์มาปลูกลงในแปลงที่เตรียมไว้ ระยะห่างประมาณ 50×50 ซม.

ฝักกระเจี๊ยบเขียว

วิธีดูแลรักษากระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวเจริญเติบโตได้ง่ายๆ เป็นพืชที่ชอบน้ำ ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ต้องดูแลรดน้ำเสมอ โดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำเช้าเย็น จะทำให้โตได้เร็ว

การเก็บเกี่ยวผลผลิตกระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวหลังจากปลูกประมาณ 2 เดือน สามารถเก็บเกี่ยวได้ จะเก็บฝักอ่อนมีสีเขียว ใช้มีดหรือกรรไกรตัดเบามือ ให้ระวังผลช้ำเสียหายง่าย และเก็บในภาชนะที่เตรียมไว้ และสามารถเก็บเกี่ยวได้ต่อไป ประมาณ 2 เดือน

วิธีเก็บรักษากระเจี๊ยบเขียว

เราจะนำกระเจี๊ยบเขียว แล้วนำมาล้างน้ำให้สะอาด เราจะมีวิธีเก็บรักษานานๆ คือให้ล้างน้ำให้สะอาดดี แล้วให้สะเด็ดน้ำออกให้หมด แล้วนำมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง แล้วใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ตู้เย็นจะเก็บไว้ได้นาน

Be the first to comment

Leave a Reply