สับปะรดภูแล

สับปะรดภูแล

►สับปะรดภูแล (Chiangrai Phulae Pineapple) เป็นสับปะรดพันธุ์หนึ่ง ที่ปลูกอยู่ในจังหวัดเชียงราย เป็นพืชล้มลุกมีทรงพุ่ม ลำต้นเดี่ยวอยู่ใต้ดิน ลำต้นแข็งและเหนียว ผลมีลักษณะทรงกลม มีขนาดเล็ก มีเปลือกแข็งหนามีตารอบผล มีจุกกลุ่มใบที่ปลายผล ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีเหลือง ข้างในมีเนื้อสีเหลือง จะมีเมล็ดเล็กๆแทรกอยู่ เนื้อนุ่มชุ่มน้ำ มีแกนตรงกลางรับประทานได้ มีรสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นหอม จะรับประทานเมื่อสุก มีถิ่นกำเนิดในตำบลนางแล จังหวัดเชียงรายในประเทศไทย เป็นพืชท้องถิ่นจะปลูกมากในพื้นที่จังหวัดเชียงราย มีชื่อเสียงมากเป็นที่รู้จักกันดี มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง นำมารับประทาน นำมาประกอบอาหารต่างๆ ได้หลายเมนู ทำเป็นเครื่องดื่มหอมเย็นชื่นใจ

พืชผลไม้สมุนไพร
สับปะรดภูแล : Chiangrai Phulae Pineapple

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ananas comosus (L.) Merr.
อยู่ในวงศ์ : Bromelioideae

สับปะรดภูแล (Sap-Pa-Rod-Phu-Lae) เป็นสับปะรดพันธุ์หนึ่ง อยู่ในจังหวัดเชียงราย เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม มีลำต้นอยู่ใต้ดิน ลำต้นมีลักษณะกลมๆ มีแก่นแข็งและเหนียว มีสีน้ำตาล ใบมีลักษณะรูปหอกยาวรี ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบมีรอยหยักเล็กๆ มีหนามแหลมคมตรงปลายใบ ไม่มีก้านใบ มีสีเขียว ผลมีลักษณะทรงกลม มีขนาดเล็ก มีเปลือกแข็งหนามีตารอบผล มีจุกกลุ่มใบที่ปลายผล ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีเหลือง ข้างในมีเนื้อสีเหลือง จะมีเมล็ดเล็กๆแทรกอยู่ เนื้อนุ่มชุ่มน้ำ มีแกนตรงกลางรับประทานได้ มีรสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นหอม จะรับประทานเมื่อสุก มีรสชาติหวานหอมเย็น นำมารับประทาน นำมาประกอบอาหารต่างๆ ได้หลายเมนู ทำเป็นเครื่องดื่มหอมเย็นชื่นใจ จะปลูกมากในจังหวัดเชียงราย มีชื่อเสียงมากเป็นที่รู้จักกันดี

ลำต้น เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นเดี่ยว ออกอยู่ในใต้ดิน ลำต้นมีลักษณะกลมๆ มีแก่นแข็งและเหนียว มีสีน้ำตาล

ราก มีระบบรากแก้ว แทงลึกลงในดิน มีลักษณะกลมเล็กๆ มีรากแขนงเป็นรากฝอยๆ ออกรอบๆลำต้น มีสีน้ำตาล

ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับซ้อนกันรอบๆลำต้น ใบมีลักษณะรูปหอกยาวรี ปลายใบเรียวแหลม ขอบใบมีรอยหยักเล็กๆ มีหนามแหลมคมตรงปลายใบ ไม่มีก้านใบ มีสีเขียว

ดอก ออกดอกเป็นช่อ มีลักษณะทรงกรวย มีสีแดง มีดอกย่อยเล็กๆ มีสีฟ้า จำนวนมาก ออกจากกลางลำต้น ก้านช่อดอกจะสั้น

ผล มีลักษณะทรงกลม มีขนาดเล็ก มีเปลือกแข็งหนามีตารอบผล มีจุกกลุ่มใบที่ปลายผล ผลอ่อนมีสีเขียว ผลสุกมีสีเหลือง ข้างในมีเนื้อสีเหลือง จะมีเมล็ดเล็กๆแทรกอยู่ เนื้อนุ่มชุ่มน้ำ มีแกนตรงกลางรับประทานได้ มีรสชาติหวานกรอบ มีกลิ่นหอม

เมล็ด จะมีหลายเมล็ดเล็กๆ แทรกในเนื้อ เมล็ดมีลักษณะทรงรีเล็กๆ มีสีดำ

ประโยชน์และสรรพคุณสับปะรดภูแล

มีโพแทสเซียม มีฟอสฟอรัส มีวิตามินเอ มีวิตามินอี มีวิตามินซี มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี5 มีวิตามินบี6 มีแคลเซียม มีโปรตีน มีเหล็ก มีแมกนีเซียม มีคาร์โบไฮเดรต มีสังกะสี มีไขมัน มีไฟเบอร์ มีเอนไซม์ มีเบตาแคโรทีน

ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยบำรุงสมอง ช่วยบำรุงประสาท ช่วยบำรุงสายตา ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยระบบขับถ่าย ช่วยย่อยอาหาร ช่วยระบายท้อง แก้ท้องผูก ช่วยระบบทางเดินอาหาร ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยบำรุงไต ช่วยบำรุงโลหิต ช่วยขับพยาธิ ช่วยระบบลำไส้ ช่วยรักษาความดันโลหิตสูง ช่วยรักษาโรคหลอดลมอักเสบ ช่วยดับความร้อน แก้กระหายน้ำ

การปลูกและขยายพันธุ์สับปะรดภูแล

สับปะรดภูแลจะปลูกได้ในดินทุกชนิด ในดินร่วนปนทรายจะเจริญเติบโตได้ดี ดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ น้ำไม่ขัง เป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี
การปลูกโดยใช้หน่อ หรือใช้ส่วนยอดจุก ปลูกลงในแปลงดินที่เตรียมไว้ โดยนำใส่ลงในลงหลุมปลูก พร้อมกลบดินให้แน่นพอประมาณ ให้มีระยะห่างระหว่างต้น ประมาณ 50×80 เซนติเมตร

วิธีดูแลรักษาสับปะรดภูแล

เป็นพืชที่ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ระยะแรกโดยให้รดน้ำเว้นวัน ให้โดนแดดตลอดได้ จะเจริญเติบโตได้ดี เมื่อต้นเริ่มเติบโตขึ้น ให้ลดการรดน้ำได้ รดน้ำอาทิตย์ละครั้ง เป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี งดให้น้ำเมื่อใกล้เก็บเกี่ยว ประมาณ 2 อาทิตย์

การเกี่ยวเก็บผลผลิตสับปะรดภูแล

เมื่อสับปะรดภูแลเริ่มสุกเต็มที่ มีอายุได้ประมาณ 14-16 เดือน หลังปลูกลงแปลง ให้สังเกตุดูที่ สีของผลจะมีสีเหลืองปนเขียว มีตานูนขยายออก ดมดูมีกลิ่นหอม ตัดให้มีก้านติดมาด้วย จะช่วยให้เก็บรักษาไว้ได้นาน แล้วนำเก็บใส่ภาชนะที่เตรียมไว้

วิธีเก็บรักษาสับปะรดภูแล

จะนำผลสับปะรดภูแล แล้วนำมาวางในที่แห้ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก แล้วจะสามารถเก็บไว้ได้นาน