สะตอ

สะตอ(Bitter Bean) เป็นไม้ยืนต้น มีลำต้นเดี่ยวแข็ง มีฝักยาว มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว
สะตอ(Bitter Bean) เป็นไม้ยืนต้น มีลำต้นเดี่ยวแข็ง มีฝักยาว มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว

สะตอ

►สะตอ (Bitter Bean) เป็นไม้ยืนต้น มีลำต้นเดี่ยวแข็ง มีฝักยาว มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ใช้เมล็ดรับประทาน มีรสชาติหวานมันกรอบ มีถิ่นกำเนิดในภาคใต้ประเทศไทย ได้มีการปลูกกันในทั่วประเทศ และได้มีการปลูกกันในหลายประเทศในเอเชีย สะตอเป็นพืชผักสมุนไพร มีประโยชน์และสรรพคุณทางยา ใช้นำมารักษาโรคต่างๆ ได้หลายอย่าง และสามารถนำมาประกอบ ปรุงอาหารเมนูต่างๆ ได้มากมายหลากหลายเมนู สะตอเป็นผักที่จะใช้เมล็ด เป็นผักสดรับประทานกับอาหารได้

พืชผักสมุนไพร
สะตอ : Bitter Bean

สะตอ : Stink bean,Twisted cluster bean
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Parkia speciosa Hassk
อยู่ในวงศ์ถั่ว : Fabaceae

สะตอ เป็นไม้ยืนต้น เป็นผักสมุนไพร มีลำต้นเดี่ยว ลำต้นมีลักษณะกลมๆ แข็งและเหนียว เปลือกมีสีเทา ใบเป็นใบประกอบแบบขนนก มีสีเขียว ดอกจะเป็นช่อมีสีเหลืองอ่อน มีผลเป็นฝัก มีลักษณะแบนยาว ผักอ่อนมีสีเขียว ฝักแก่สีน้ำตาล จะมีเมล็ดเรียงอยู่ ใช้รับประทานเมล็ด มีรสชาติหวานมันกรอบ มีกลิ่นฉุนแรง

สะตอ

ลำต้นสะตอ เป็นไม้ยืนต้น มีลำต้นเดี่ยว มีลำต้นกลมๆ แข็งและเหนียว เปลือกมีสีเทา ลำต้นมีความสูงมาก

ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก ใบเรียงสลับซ้อนกันสองชั้น มีก้านยาว ส่วนใบย่อย มีลักษณะเล็กๆรูปรียาว โคนเบี้ยวปลายแหลม เรียงตรงข้ามกัน ขอบใบมีขนอ่อน มีสีเขียว

รากสะตอ มีระบบรากแก้ว รากมีลักษณะกลมๆ ๆ จะมีรากแขนงฝอยๆ มีสีน้ำตาล

ดอก มีดอกเป็นช่อ มีลักษณะโคนทรงกลมรี ปลายกลม มีดอกย่อยเล็กๆ จำนวนมากอยู่เป็นกระจุก มีสีเหลืองอ่อน ออกที่ปลายกิ่ง ก้านช่อดอกจะยาว

ผล มีผลเป็นฝัก มีลักษณะแบนยาว ปลายฝักแหลม ฝักอ่อนมีสีเขียว ฝักสุกแก่มีสีน้ำตาล จะมีเมล็ดเรียงอยู่ มีกลิ่นแรงฉุนเฉพาะตัว

เมล็ด จะมีหลายเมล็ดเรียงอยู่ในฝัก เมล็ดมีลักษณะกลมรีๆ ฝักอ่อนมีสีเขียว เมื่อแก่จะมีสีเขียว จะมีเมล็ดเรียงอยู่มีสีเขียว เมล็ดในระยะนี้รสมัน ใช้รับประทาน มีกลิ่นแรงฉุนเฉพาะตัว ถ้าแก่กว่าระยะนี้ ฝักจะแห้งจะมีสีน้ำตาล จะแตกตามยาว เมล็ดเป็นสีดำ เป็นมันลื่น แข็งและมีกลิ่นฉุนจัด กินไม่ได้

ฝักสะตอ

ประโยชน์สรรพคุณสะตอ

มีโปรตีน มีวิตามินเอ มีวิตามินซี มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีเหล็ก มีฟอสฟอรัส มีไขมัน มีพลังงาน มีคาร์โบไฮเดรต มีแคลเซียม
ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยลดความดันเลือด ช่วยแก้อาการท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ แก้แน่นท้อง แก้เรอเปรี้ยว ช่วยขับลม เป็นยาระบาย เป็นยาถ่าย ช่วยขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ แก้ไตพิการ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยเจริญอาหาร ช่วยยับยั้งเชื้อรา ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย

ข้อควรระวัง สะตอมีกรดยูริคสูง ผู้ที่เป็นโรคเก๊า ควรหลีกเลี่ยง

การปลูกและขยายพันธุ์สะตอ

สะตอจะปลูกในดินร่วนปนทราย ดินที่มีความชุ่มชื้นพอเหมาะ สามารถเจริญเติบโตในดินทุกชนิด น้ำไม่ขัง สามารถปลูกสะตอได้ทั่วทุกภูมิภาค และปลูกได้ทุกฤดูในประเทศไทย เป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี สะตอนิยมปลูกมีสองพันธุ์ได้แก่ สะตอดาน และสะตอข้าว
การปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ การปลูกติดตา การปลูกใช้กิ่งปักชำ
การปลูกโดยใช้เมล็ด ปลูกลงในถุงดินที่เตรียมไว้ โดยนำเมล็ดพันธุ์ของสะตอใส่ลง แล้วรดน้ำให้ชุ่มประมาณ 3 วัน ต้นกล้าจะงอกออกมา แล้วเลี้ยงต้นกล้าให้โตประมาณ 1 ปี แล้วนำปลูกลงในแปลงดิน ลงในหลุมปลูก พร้อมกลบดินให้แน่นพอประมาณ ให้มีระยะห่างกันประมาณ 6 เมตร

เมล็ดสะตอ

วิธีดูแลรักษาสะตอ

สะตอพืชที่ชอบน้ำ ต้องระบายน้ำดี น้ำไม่ขัง ชอบแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น ให้โดนแดดตลอดวัน จะทำให้โตได้เร็ว เมื่อเริ่มเติบโตขึ้นให้ลดการรดน้ำลง หลังปลูกได้ประมาณ 3 ปี สะตอเป็นพืชที่ทนทานต่อความแห้งแล้งได้ดี

การเก็บเกี่ยวผลผลิตสะตอ

จะเริ่มเก็บผลผลิตเมื่อฝักของสะตอ เริ่มยาวโตเต็มที่ เมื่อถั่วฝักยาวมีอายุประมาณ 5-6 ปี หลังปลูกในแปลง และจะเริ่มเก็บผลผลิตได้

วิธีเก็บรักษาสะตอ

จะนำฝักสะตอ แล้วนำมาล้างน้ำให้สะอาด เราจะมีวิธีเก็บรักษาสะตอให้สดนานๆ คือให้ล้างน้ำให้สะอาดดี แล้วให้สะเด็ดน้ำออกให้หมด แล้วแกะเมล็ดออก แล้วใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ตู้เย็น จะเก็บไว้ใช้ได้นาน

Be the first to comment

Leave a Reply