มะขามเทศ

มะขามเทศ (Manila Tamarind) เป็นพืชผลไม้พื้นบ้าน
มะขามเทศ (Manila Tamarind) เป็นพืชผลไม้พื้นบ้าน

มะขามเทศ

►มะขามเทศ (Manila Tamarind) เป็นพืชผลไม้พื้นบ้าน เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ กิ่งมีหนามแหลม มีฝักลักษณะกลมโค้งงอ มีเนื้อสีชมพู หรือสีขาว มีรสชาติหวานมัน หรือฝาดตามสายพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกากลาง และได้นิยมมีการปลูกกันทั่วไป ในประเทศเขตร้อน ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีประโยชน์และสรรพคุณทางยา ใช้นำมารักษาโรคต่างๆ ได้หลายอย่าง ใช้ฝักสุกนำมารับประทาน ใช้ฝักดิบนำมาใช้เป็น ส่วนประกอบปรุงอาหารเมนูต่างๆ ได้

พืชผลไม้สมุนไพร
มะขามเทศ : Manila Tamarind

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Pithecellobium dulce
วงศ์ : Fabaceae

มะขามเทศ เป็นพืชผลไม้พื้นบ้าน เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีลำต้นเดี่ยว ลำต้นมีลักษณะกลมๆ กิ่งมีหนามแหลม ใบเป็นใบประกอบ มีสีเขียว ออกดอกเป็นช่อ ผลเป็นฝัก มีลักษณะเป็นปล้องกลม โค้งงอทรงกลม มีเนื้อสีชมพู หรือสีขาว มีรสชาติหวานมัน หรือฝาดตามสายพันธุ์

มะขามเทศ

ลำต้น เป็นไม้ยื่นต้นขนาดใหญ่ มีลำต้นเดี่ยว ลำต้นมีลักษณะกลมๆ ลำต้นแข็งและเหนียว ขรุขระ เปลือกต้นแข็ง มีสีน้ำตาล ต้นเป็นทรงสูงโปร่ง มีกิ่งแผ่กระจาย จะมีหนามแหลมอยู่ทั่วไป

ใบ เป็นใบประกอบมีใบหลัก มีก้านใบย่อยคู่ ใบมีลักษณะทรงกลมรี ฐานโคนใบมน ปลายใบมนรี ขอบใบเรียบ ใบบาง มีสีเขียว

ราก เป็นระบบรากแก้ว มีรากที่แข็งแรง กว้างขวางและหยั่งลึก รากมีลักษณะกลม จะมีรากแขนงฝอยๆ มีสีน้ำตาล

ดอก ออกดอกเป็นช่อ จะอยู่เกาะกัน มีลักษณะดอกสมบูรณ์เพศ จะออกช่อดอกตรงปลายยอดกิ่ง มีสีขาว ก้านช่อดอกจะยาว

ผล มีผลเป็นฝัก มีลักษณะเป็นปล้องกลม โค้งงอกลมๆ เปลือกผลดิบมีสีเขียว เปลือกผลสุกจะมีสีชมพู แดงเข้ม ข้างในจะมีเนื้อสีชมพู หรือสีขาว มีเมล็ดอยู่ข้างใน มีรสชาติหวานมัน หรือฝาดตามสายพันธุ์

เมล็ด จะอยู่ภายในฝัก เมล็ดมีลักษณะรูปกลมแบน นูนกลาง เมล็ดอ่อนสีเขียว เมล็ดแก่มีสีดำ มีเปลือกลื่นหุ้ม ข้างในมีร่องแบ่งออกสองซีกมีสีขาว

ประโยชน์และสรรพคุณมะขามเทศ

มีวิตามินอี มีวิตามินเอ มีวิตามินเค มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีโพแทสเซียม มีฟอสฟอรัส มีเหล็ก มีแคลเซียม มีแมกนีเซียม มีเส้นใย มีวิตามินซี มีโปรตีน มีโซเดียม มีพลังงาน มีคาร์โบไฮเดรต

ช่วยสร้างภูมิต้านทาน ช่วยซ่อมแซมส่วนสึกหรอให้ร่างกาย ช่วยชลอความชรา ข่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงผม ช่วยบำรุงเล็บ ช่วยบำรุงกระดูก ช่วยซ่อมแซมกระดูก ช่วยบำรุงฟัน ช่วยสร้างเม็ดเลือด แก้ไอ ช่วยขับเสมหะ แก้หวัด ช่วยบำรุงสายตา ช่วยลดเลือดออกตามไรฟัน ช่วยบรรเทาปวดฟัน ช่วยรักษาฟันผุ ช่วยรักษาโรคปากเปื่อย ช่วยรักษาโรคปากนกกระจอก ช่วยสร้างเม็ดเลือด ช่วยสมานแผล ช่วยห้ามเลือด ช่วยบำรุงสมอง ช่วยบำรุงประสาท ช่วยลดคอเลสเตอรอล แก้โรคบิด แก้ท้องร่วง แก้อาเจียน แก้ท้องผูก ช่วยขับพยาธิ ช่วยล้างไต แก้โรคผิวหนัง แก้ท้องเสีย ช่วยขับปัสสาวะ ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ช่วยห้ามเลือด ช่วยลดเซลล์เสื่อม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้อาเจียน ช่วยลดกรดในกระเพาะ ลดอาการแผลอักเสบ ช่วยบรรเทาโรคเบาหวาน ช่วยบำรุงร่างกาย

การปลูกและขยายพันธุ์มะขามเทศ

มะขามเทศ เป็นพืชผลไม้พื้นบ้าน ที่ปลูกง่ายทนแล้งได้ดี ดูแลรักษาง่าย ปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกในช่วงฤดูฝน เจริญเติบโตได้ดี จะเจริญเติบโตได้ดีกับดินทุกชนิด โดยเฉพาะดินร่วน ไม่ชอบพื้นที่น้้าท่วมขัง จะทนแล้งได้ดี วิธีการปลูก 2 วิธี ใช้วิธีการเพาะเมล็ด และการตอนกิ่ง เป็นวิธีที่นิยมมากกว่า

1.วิธีการเพาะเมล็ด การเพาะในถุงเพาะชำ จะนำถุงพลาสติก มาใส่ดินร่วนปนทราย แล้วจะนำเมล็ดประมาณ 1 เมล็ด มาใส่ฝังลงดินกลบจนมิด แล้วจัดวางไว้ในที่ร่ม ที่มีแสงแดดรำไร แล้วรดน้ำทุกวัน อย่าให้แฉะจนเกินไป เมื่อเมล็ดงอกจึงนำลงปลูกในแปลง
2.วิธีการการตอนกิ่ง โดยเลือกกิ่งที่ไม่อ่อน และไม่แก่เกินไป แล้วนำมาตอนกิ่งให้มีรากงอกออก แล้วจากนั้นนำลงปลูกในแปลง

ใช้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 8 เมตร และระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 10 เมตร

ฝักมะขามเทศ

วิธีดูแลรักษามะขามเทศ

การดูแลหลังการปลูก จะไม่ยุงยากมากนัก เนื่องจากมะขามเทศสามารถ ทนต่อความแห้งแล้งได้ดี หลังปลูกลงในแปลง ให้รดน้ำทุกวัน ประมาณ 6 เดือน หลังจากนี้ปล่อยตามธรรมชาติ ถ้าปลูกในช่วงฤดูฝน จะเจริญเติบโตได้ดี ควรตัดแต่งกิ่งเพื่อไม่ให้สูงเกินไป

การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะขามเทศ

จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิต เมื่อปลูกมะขามเทศด้วยการตอนกิ่ง ใช้เวลาประมาณ 2 ปี เมื่อปลูกด้วยเมล็ดใช้เวลาประมาณ 3-4 ปี จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ สังเกตุที่ฝักเริ่มสุก เปลือกจะมีสีชมพุ สีแดง โดยใช้กรรไกรตัดก้าน การเก็บให้ระมัดระวังการเก็บเกี่ยว ไม่ให้ผลร่วงลงมาเสียหาย

วิธีเก็บรักษามะขามเทศ

มะขามเทศไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน เราจะมีวิธีเก็บรักษาคือ จะเก็บไว้ในที่เย็น จะสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน

Be the first to comment

Leave a Reply