กะเพรา
►กะเพรา (Holy Basil) เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม อยู่ในสกุลแมงลัก-โหระพา มีอายุหลายปี นำไปใช้ได้ทั้งใบ ดอกและเมล็ด ใบมีลักษณะทรงรีเล็กๆ ขอบใบเป็นรอยหยักเล็กๆ ใบมีสีเขียว สีเขียวอมม่วงแดง หรือสีน้ำตาลอมแดง ตามสายพันธุ์ ใบด้านบนสีเข้มกว่าใบด้านล่าง มีก้านใบยาวรองรับ มีขนสีขาวเล็กๆปกคลุม ใบบอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่าย มีรสชาติเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมแรง มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย เป็นที่นิยมปลูกกันทั่วไปในเขตอากาศร้อน เป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มีมาแต่โบราณ มีประโยชน์และสรรพคุณ ทางยาหลายอย่าง กะเพราจะมีกลิ่นหอมฉุนเฉพาะตัว นำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆ ได้หลายเมนู ที่นิยมและรู้จักกันดีคือ เมนูผัดกะเพราต่างๆ
พืชผักสมุนไพร
กะเพรา : Holy Basil
กะเพรา : Thai Holy basil,Sacred basil
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Ocimum tenuiflorum L.
อยู่ในวงค์ : Labiatae
กะเพรา (Ka-Pow) เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม มีอายุหลายปี เจริญเติบโตได้ง่ายๆ ลำต้นมีลักษณะกลมๆ มีสีเขียวอมน้ำตาล มีเนื้อแข็ง ใบเป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ใบมีลักษณะทรงรีเล็กๆ ขอบใบเป็นรอยหยักเล็กๆ ใบมีสีเขียว สีเขียวอมม่วงแดง หรือสีน้ำตาลอมแดง ตามสายพันธุ์ ใบด้านบนสีเข้มกว่าใบด้านล่าง มีก้านใบยาวรองรับ มีขนสีขาวเล็กๆปกคลุม ใบบอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่าย มีรสชาติเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมแรง มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว ดอกออกเป็นช่อยาว กลีบดอกมีสีม่วงแดงหรือมีสีขาว นิยมปลูกเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้าน กะเพรามี 3 สายพันธุ์ คือ กะเพราแดง กะเพราขาว และกะเพราลูกผสม กะเพราแดงจะมีกลิ่นแรงกว่ากะเพราขาว
ลำต้น เป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุก มีทรงพุ่ม มีอายุหลายปี ลำต้นเดี่ยว มีลักษณะกลมๆ ต้นมีเนื้อแข็ง แตกกิ่งก้านสาขามาก ก้านมีขนเล็กๆ มีสีเขียวอมน้ำตาล
ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกตรงข้ามกัน ใบมีลักษณะทรงรีเล็กๆ ขอบใบเป็นรอยหยักเล็กๆ ใบมีสีเขียว สีเขียวอมม่วงแดง หรือสีน้ำตาลอมแดง ตามสายพันธุ์ ใบด้านบนสีเข้มกว่าใบด้านล่าง มีก้านใบยาวรองรับ มีขนสีขาวเล็กๆปกคลุม ใบบอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่าย มีรสชาติเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอมแรง มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว
ราก มีระบบรากแก้ว แทงลึกลงในดิน มีลักษณะกลมเล็กๆ มีรากแขนงรากฝอยเล็กๆ ออกรอบๆลำต้น มีสีน้ำตาล มีกลิ่นเฉพาะตัว
ดอก ออกเป็นช่อ ตั้งขึ้นคล้ายฉัตร ก้านช่อดอกยาว ออกบริเวณปลายยอดและปลายกิ่ง มีดอกย่อย มีลักษณะ รูปคล้ายระฆัง มีขนาดเล็ก กลีบดอกมีสีม่วงแดงหรือมีสีขาว
ผล มีลักษณะทรงไข่เล็กๆ ผลแก่แห้งจะแตกออก จะมีเมล็ดเล็กสีดำอยู่มากมาย
เมล็ด เมื่อผลแก่แห้งแล้วจะแตกออก ภายในจะมีเมล็ดอยู่มากมาย มีลักษณะทรงรีเล็กๆ มีสีดำ
ประโยชน์และสรรพคุณกะเพรา
มีวิตามินเอ มีโพแทสเซียม มีฟอสฟอรัส มีเบตาแคโรทีน มีวิตามินซี มีวิตามินบี1 มีวิตามินบี2 มีวิตามินบี3 มีวิตามินบี5 มีวิตามินบี6 มีวิตามินบี9 มีแคลเซียม มีเส้นใย มีโปรตีน มีคาร์โบไฮเดรต มีวิตามินเอ มีโซเดียม มีสังกะสี มีน้ำตาล มีไขมัน มีพลังงาน
ช่วยขับลม แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย แก้คลื่นไส้อาเจียน ช่วยขับเหงื่อ แก้พิษตานซาง แก้ไข้สันนิบาต ช่วยรักษาไข้มาลาเรีย แก้ท้องขึ้น แก้ท้องอืด แก้ท้องเฟ้อ ช่วยบำรุงธาตุ แก้บิด ช่วยบำรุงธาตุไฟ แก้ปวดท้องอุจจาระ แก้จุกเสียด ช่วยขับน้ำดี ช่วยย่อยไขมัน ช่วยลดอาการจุกอก ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยรักษาโรคกระเพาะ ช่วยป้องกันโรคธาตุพิการ เป็นยากันยุงได้ ช่วยรักษาหลอดลมอักเสบ ช่วยรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ ช่วยรักษาโรคไตอักเสบ ช่วยบำรุงผิวพรรณ ช่วยบำรุงสายตา ช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยขับน้ำนม เป็นยาอายุวัฒนะ
การปลูกและขยายพันธุ์กะเพรา
กะเพราเป็นพืชที่เจริญได้ในดินแทบทุกชนิด ชอบดินร่วนปนทราย การปลูกที่นิยมมี 2 วิธี การปลูกโดยใช้เมล็ดพันธุ์ โดยเพาะต้นกล้าประมาณ 1 เดือน แล้วจึงทำการย้ายปลูก และการปลูกโดยใช้กิ่งชำปลูก นำมาปลูกลงในแปลงดินที่เตรียมไว้ ให้มีระยะห่างประมาณ 30×30 เซนติเมตร
วิธีดูแลรักษากะเพรา
กะเพราเป็นพืชที่ชอบน้ำ ระบายน้ำดีน้ำไม่ขัง ชอบแสงแดด ต้องดูแลรดน้ำเสมอ และโดนแดดได้ตลอดวัน ต้องหมั่นรดน้ำให้ชุ่ม โดยรดน้ำเช้าเย็น จะทำให้กะเพราโตได้เร็ว กะเพรามีอายุหลายปี สามารถเก็บเกี่ยวไปได้เรื่อยๆ ตลอด
การเก็บเกี่ยวผลผลิตกะเพรา
กะเพราจะเก็บเกี่ยว ผลผลิตได้ประมาณ 2 เดือน หลังจากการปลูก จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ใช้มือเด็ดยอดอ่อนหรือกรรไกรตัดกิ่ง สามารถเก็บเกี่ยวไปได้เรื่อยๆ ทุกๆ 20-30 วัน กะเพราเป็นผักที่บอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่าย ควรเก็บเบามือ แล้วนำใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้
วิธีเก็บรักษากะเพรา
จะนำกะเพรามาล้างน้ำให้สะอาด กะเพราเป็นผักที่บอบบาง ช้ำง่ายและเหี่ยวง่าย เราจะมีวิธีเก็บรักษาให้สดนานๆ คือให้ล้างน้ำให้สะอาดดี แล้วให้สะเด็ดน้ำออกให้หมด แล้วนำมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง แล้วใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แล้วนำไปแช่ตู้เย็น จะเก็บไว้ใช้ได้นาน
Be the first to comment